วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา๔
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑
( แก้ไขเพิ่มเติมใหม่ ๒๕๕๑ )
มาตรา ๔ พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่
(๑) ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนท้องถิ่น
(๒) รัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
นอกจากกรณีตามวรรคหนึ่ง จะออกกฎกระทรวงมิให้ใช้บังคับพระราชบัญญัติ
นี้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแก่นายจ้างประเภทหนึ่งประเภทใดก็ได้
หลักเกณฑ์โดยย่อ
๑. พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และงานหรือนายจ้างที่ยกเว้นในกฎกระทรวง
๒. กฎกระทรวง ( พ.ศ.๒๕๔๑ ) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ กำหนดไว้ดังต่อไปนี้
(๑) มิให้ใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ บังคับแก่นายจ้างซึ่ง
ประกอบกิจการโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ทั้งนี้
เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับครูใหญ่และครู
หลักเกณฑ์โดยย่อ
ลูกจ้างตำแหน่งอื่นของโรงเรียนเอกชน เช่น นักการภารโรง เสมียน พนักงาน พนักงานบัญชีการเงิน พนักงานขับรถ เป็นต้น อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑
ลูกจ้างของมหาวิทยาลัยเอกชน ไม่ว่าตำแหน่งใด อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑
สถานศึกษาของราชการ ไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ เนื่องจากเป็นหน่วยงานราชการ ตามมาตรา ๔(๑)
ฎีกาสำคัญ
ฎีกาที่ ๕๓๖๔ – ๕๓๖๘ / ๒๕๔๓
กฎกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๔๑ ซึ่งออกตามความในมาตรา ๔ วรรคสอง และมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ บัญญัติไว้ใน (๑) ว่ามิให้ใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ บังคับแก่นายจ้างซึ่งประกอบกิจการโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน ทั้งนี้ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับครูใหญ่และครู เมื่อจำเลยเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการโรงเรียนบริหารธุรกิจภาคใต้ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน ได้ว่าจ้างโจทก์ทั้งห้าเป็นลูกจ้าง ตำแหน่งครูผู้สอน โจทก์ทั้งห้าจึงไม่มีอำนาจฟ้องเรียกร้องสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑
(๒) มิให้ใช้บทบัญญัติบางมาตราในพระราชคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ บังคับแก่นายจ้างซึ่งลูกจ้างทำงานเกี่ยวกับงานบ้านที่ไม่มีการประกอบธุรกิจอื่นรวมอยู่ด้วย
ลูกจ้างทำงานเกี่ยวกับงานบ้าน คือ ลูกจ้างที่ทำงานรับใช้ในบ้านเรือน
เช่น ทำความสะอาด ทำอาหาร ซักรีดเสื้อผ้า เลี้ยงดูเด็ก ทำสวน ดูแลบ้าน
เป็นต้น
หลักเกณฑ์โดยย่อ
ลูกจ้างนั้นต้องทำงานเกี่ยวกับงานบ้านอย่างเดียว ไม่มีงานอื่นรวมด้วย จึงจะเข้าหลักเกณฑ์ตามกฎกระทรวง
เดิมประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ไม่ถือว่าลูกจ้างที่ทำงานบ้านเป็นลูกจ้าง จึงไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน
พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ ถือว่าลูกจ้างทำงานเกี่ยวกับงานบ้านที่มีการประกอบธุรกิจอื่นรวมอยู่ด้วยเป็นลูกจ้าง ซึ่งได้รับความคุ้มครองเพียงบางลักษณะเท่านั้น โดยไม่ใช้บังคับสำหรับ
หมวด ๑ บททั่วไป มาตรา ๑๒, มาตรา ๑๘, มาตรา ๒๑
และมาตรา ๒๒
หมวด ๒ การใช้แรงงานทั่วไป มาตรา ๒๓ – ๓๗ เว้นแต่
ตามมาตรา ๓๐
หมวด ๓ การใช้แรงงานหญิง มาตรา ๓๘ - มาตรา ๔๓
หมวด ๔ การใช้แรงงานเด็ก มาตรา ๔๔ – มาตรา ๕๒
หมวด ๕ ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่า
ล่วงเวลาในวันหยุด มาตรา ๕๓ – มาตรา ๗๗
หมวด ๖ คณะกรรมการค่าจ้าง มาตรา ๗๘ – มาตรา ๙๑
หมวด ๗ สวัสดิการ มาตรา ๙๒ – มาตรา ๙๙
หมวด ๘ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม
ในการทำงาน มาตรา ๑๐๐ – มาตรา ๑๐๗
หมวด ๙ การควบคุม มาตรา ๑๐๘ – มาตรา ๑๑๕
หมวด ๑๐ การพักงาน มาตรา ๑๑๖ – มาตรา ๑๑๗
หมวด ๑๑ ค่าชดเชย มาตรา ๑๑๘ – มาตรา ๑๒๒
หมวด ๑๓ กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง มาตรา ๑๒๖ –
มาตรา ๑๓๘
(๓) มิให้ใช้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ บังคับแก่นายจ้างซึ่งจ้างลูกจ้างทำงานที่มิได้แสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ ซึ่งหมายถึง
๑) งานที่มิได้แสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ ให้ดูที่งานมิใช่ดูที่วัตถุประสงค์ของนายจ้างหรือองค์กรของนายจ้าง
๒) งานนั้นต้องทำได้โดยไม่คิดค่าตอบแทน หรือคิดเท่าทุน หรือมี
กำไรบ้างก็นำมาเป็นทุนเพื่อดำเนินการต่อไป โดยมิได้นำไป
แบ่งปัน หรืองานที่ทำโดยไม่เรียกร้อง แล้วแต่ผู้รับบริการจะจ่าย
ให้หรือไม่ก็ได้
๓) บทบัญญัติในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ ที่มิใช้บังคับกับงานที่มิได้แสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ มีดังนี้
หมวด ๑ บททั่วไป มาตรา ๑๒, มาตรา ๑๖, มาตรา ๑๘
และมาตรา ๒๒
หมวด ๒ การใช้แรงงานทั่วไป มาตรา ๒๓ – มาตรา ๓๗
หมวด ๓ การใช้แรงงานหญิง มาตรา ๓๘ – มาตรา ๔๓
หมวด ๔ การใช้แรงงานเด็ก มาตรา ๔๔ – มาตรา ๕๒
หมวด ๕ ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่า
ล่วงเวลาในวันหยุด มาตรา ๕๓ – มาตรา ๗๗
เว้นแต่การจ่ายค่าจ้างตามมาตรา ๕๓, มาตรา
๕๔, มาตรา ๕๕ และมาตรา ๗๐
หมวด ๖ คณะกรรมการค่าจ้าง มาตรา ๗๘ – มาตรา ๙๑
หมวด ๗ สวัสดิการ มาตรา ๙๒ – มาตรา ๙๙
หมวด ๙ การควบคุม มาตรา ๑๐๘ – มาตรา ๑๑๕
หมวด ๑๐ การพักงาน มาตรา ๑๑๖ – มาตรา ๑๑๗
หมวด ๑๑ ค่าชดเชย มาตรา ๑๑๘ – มาตรา ๑๒๒
หมวด ๑๓ กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง มาตรา ๑๒๖ –
มาตรา ๑๓๘
ฎีกาสำคัญ
ฎีกาที่ ๑๗๘๕ / ๒๕๒๗
ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นธนาคารกลางในการปฏิบัติหน้าที่แทนรัฐ ดำเนินกิจการควบคุมการเงินและการคลังของรัฐให้ถูกต้องเหมาะสม และมีเสถียรภาพ ธุรกิจที่ธนาคารนี้ประกอบก็กระทำไปในฐานะธนาคารกลาง มิได้เป็นการแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันการเงินอื่น หากจะมีกำไรบ้างก็เป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น ถือไม่ได้ว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ จึงได้รับการยกเว้นมิต้องอยู่ภายใต้บังคับประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน
ฎีกาสำคัญ
ฎีกาที่ ๙๓ / ๒๕๓๘
แม้จำเลย ( สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ) จะมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าแก่กิจการสหกรณ์ทุกประเภททั่วราชอาณาจักร อันมิใช่เป็นการหาผลกำไร หรือรายได้มาแบ่งปันก็ตาม แต่จำเลยมีรายได้ จากค่าตอบแทนในการบริการตลอดจนผลประโยชน์จากทรัพย์สิน และมีงบรายรับรายจ่าย หากรายได้สูงกว่ารายจ่ายจะตกเป็นทุนในการดำเนินงานต่อไป การดำเนินกิจการของจำเลยมีลักษณะแสวงหาประโยชน์จากกิจการเหล่านี้ โดยมิใช่เป็นกิจการให้เปล่า จึงเป็นกิจการที่แสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจ ตกอยู่ภายใต้บังคับแห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน
(๔) มิให้ใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ๒๕๔๑ บังคับแก่นายจ้างซึ่งจ้างลูกจ้างทำงานในงาน ดังต่อไปนี้
๑ ) งานเกษตรกรรม
๒ ) งานรับไปทำที่บ้าน
อาจารย์ สมชาย หลักคงคา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น